วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

หักอกมนุษย์แบงค์



หากเป็นสมัยก่อนใครบอกว่ามีลูกทำงานธนาคาร พ่อแม่คงภูมิใจและดีใจมาก ที่ลูกจะได้ทำงานในตำแหน่งหน้าที่การงานดี บริษัทใหญ่โต ฐานะมั่นคง มีโอกาสก้าวหน้า และรายได้ดี แต่พอมาถึงยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เศรษฐกิจโลกตกต่ำส่งผลกระทบโดยตรงในภาคตลาดการเงินหลายๆประเทศ แม้แต่ประเทศที่เคยมีเศรษฐกิจแข็งแกร่งก็ตามทียังพาลย่ำแย่ การค้าการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้นทุกทีตามสภาพเศรษฐกิจที่เป็นตัวบีบบังคับ

การจะเป็นพนักงานธนาคารสมัยนี้คุณต้องมีทักษะที่ทำงานได้มากกว่าหนึ่งอย่าง หรือที่เรียกว่า Multitasking Skills ในขณะที่นายจ้างต่างก็มีดัชนีชี้วัดผลงานแบบละเอียดยิบทุกขั้นตอนในการทำงาน หรือที่เรียกว่า KPI (Key Performance Indicators) นอกจากนี้ยังมีการนำคอนเซปท์ Lean Management มาใช้ในการบริหารองค์กร เพื่อขจัดการใช้ทรัพยากรอย่างสูญเปล่า โดยคำว่าทรัพยากรในที่นี้ รวมถึง แรงงาน วัตถุดิบ เวลา เงิน และอื่นๆ ซึ่งสรุปอย่างง่ายๆ ก็คือ "การลดต้นทุน เพื่อเพิ่มผลกำไรให้องค์กร"

ทำให้หัวอกมนุษย์แบงค์สมัยนี้ต้องทำตัวแข็งแกร่งประหนึ่งซุเปอร์ฮีโร่ ไม่ว่าจะเป็น Wonder Woman กับ Captain America หรืออยากจะเป็น Deadpool กับ Black Widow ก็ตามที กับหน้าที่และความรับผิดชอบที่ถูกมอบหมายงานมาให้เป็นหนึ่งใน JD (Job Description) ที่ร่ายยาวเป็นหางว่าว และยังได้รับมอบหมายงานเพิ่มขึ้นอีกทุกๆ ปี (ปาดน้ำตาแปร๊ป T_T)

แล้วบรรดากฎระเบียบและกฎเกณฑ์ที่ตามหน่วยงานต่างๆ ออกมาให้พนักงานธนาคารต้องทำตามกฎต่างๆ เหล่านั้นอย่างรัดกุมเพื่อความปลอดภัยและโปร่งใส ไม่ว่าจะ BoT และ AMLO  นอกจากนี้ยังมีกฎระเบียบและกฎเกณฑ์ที่ออกมาเพื่อตรวจสอบและป้องกันความผิดพลาดในแต่ละขั้นตอนของการทำงาน ไม่ว่าจะ Internal&External Audit และ Internal&Global Bank Policy

ยกตัวอย่างภาพให้เห็นง่ายๆ การที่คุณเห็นว่าจำนวนงานชิ้นหนึ่งที่ผลิตขึ้นมา แต่กว่างานชิ้นนั้นๆ จะถูกผลิตขึ้นมาได้ ผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนในการผลิตเกือบสิบขั้นตอนที่คุณไม่อาจทราบได้ ยิ่งสมัยนี้เทคโนโลยีก้าวหน้า การปลอมแปลงก็ยิ่งง่ายขึ้น การทำงานของพนักงานธนาคารเองก็ยิ่งยากขึ้น ต้องเช็คแล้ว เช็คอีก อย่างถ้วนถี่ เพื่อป้องกันความผิดพลาดไม่ให้เกิดขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้นหากว่าเป็นพนักงาน Teller ตามธนาคารสาขา แต่ละคนยังต้องมีเป้าสำหรับหายอดการทำประกันชีวิตของลูกค้า ซึ่งเป็นตัวกดดันพนักงานมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว เพราะตอนเรียนจบและตั้งใจว่าจะมาทำงานธนาคาร คงวาดฝันว่าจะได้ใช้ความรู้ความสามารถที่เรียนมาเพื่อทำงานบริการด้านการเงินตาม Product เฉพาะทางต่างๆ ที่ทางธนาคารมี แต่คงไม่มีใครคาดคิดว่าตัวเองจะต้องกลายมาเป็นพนักงานขายประกันพ่วงไปด้วย (ทำเอาจิตตกและออกมาตั้งกระทู้ในเวบบอร์ดดังให้เห็นกันบ่อยครั้ง)

เคยเจอน้องพนักงานธนาคารสาขาที่ไปใช้บริการ บ่นกับพนักงานด้วยกันเองว่า จะบ่ายสองละ ยังไม่ได้กินข้าวเลย งานก็ยังทำไม่เสร็จ สิ้นเดือนนี้หากใครคิดจะย้ายไปไหน บอกกันด้วยนะ จะตามไปด้วย (คาดว่าอารมณ์ตอนนั้นคุณน้องคนนี้คงพีคถึงขีดสุดแล้ว เลยได้แต่นั่งหน้าสวย ไม่ปริปากบ่นสักคำ น้องทำช้าแค่ไหน พี่เข้าใจ พี่รอได้คร่าาา)

ดังนั้นหากว่าคุณมีโอกาสได้ไปใช้บริการกับน้องๆ พนักงานธนาคารสาขาคราวหน้า รบกวนว่าให้รออย่างสุภาพ เพราะน้องๆ แต่ละท่านมีความตั้งใจในการบริการอย่างดีเยี่ยม พร้อมบริการด้วยความรวดเร็วทันใจเพื่อคุณลูกค้าสมัยนี้กันอยู่แล้ว เพียงแต่กฎเกณฑ์และกฎระเบียบในบางขั้นตอน ที่อาจทำให้บริการล่าช้า ไม่ได้ดั่งใจคุณลูกค้ากันไปบ้าง ก็ได้โปรดเข้าใจกันด้วยนะคะ เพราะแต่ละคนก็มีแรงกดดันในตัวเองสูงอยู่แล้ว สงสารน้องเค้าอะคะ

ปล. ขออภัยที่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเพราะเป็นศัพท์เทคนิคเฉพาะด้านค่ะ
________________________________________
หากใครมีบล๊อกที่ blogspot สามารถแอดกันมาได้ที่นี่ค่ะ
https://aorangel.blogspot.com/
***รับดูแลเพจแอดมิน ทางด้าน Digital Content Marketing
เขียนบทความพร้อมภาพประกอบ email: aorpaka@gmail.com***

2 ความคิดเห็น:

  1. บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อยค่ะ ในการทำงานแบงค์ในยุคปัจจุบันนี้

    ตอบลบ