วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2559

ซอมบี้ที่รัก



ช่วงนี้มีหนังซอมบี้ออกมาฉายให้ชมกันเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นหนังใหญ่ หรือจะเป็นซีรีย์ก็ตามที จนเริ่มอินตามว่าในอนาคตอันใกล้นี้ มันต้องกลายเป็นเรื่องจริงไปแล้วแน่ๆในเร็ววัน

จนเริ่มรู้สึกว่าเราต้องจับสาระกับการดูหนังซอมบี้แล้ว เพื่อเอามาปรับใช้หากเกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่ดูเพื่อความบันเทิงอย่างเดียวอีกต่อไป

ว่าแล้วก็เลยนึกถึงหนังเรื่องซอมบี้ที่เคยดูมาว่าชอบเรื่องอะไรกันบ้าง

28 days later / 28 weeks later

หนังเรื่องแรกๆของซอมบี้ที่ได้ดูเลย เป็นการแนะนำให้รู้จักว่าซอมบี้เป็นเช่นไร โทนหนังออกแนวซอมบี้เวิ้งว้างตามสไตล์หนังอังกฤษ

Resident Evil 1-5

หนังซอมบี้ทะลุไซไฟ นางเอกเท่ฝุดๆ แอ๊คชั่นกระหน่ำตามสไตล์ โดยเฉพาะฉาก "เฉือน" ที่ติดตาในภาคแรก

I am legend

เรียกว่าเป็น Cast Away เวอร์ชั่นซอมบี้เลยก็ว่าได้ ดูแล้วได้สาระในการชีวิตหลังคนทั้งเมืองกลายเป็นซอมบี้ได้เป็นอย่างดี แอบสงสารน้องหมา T_T

Warm Bodies

ซอมบี้ที่รัก หนังรักโรแมนติก ที่เอาเรื่องซอมบี้มาผสมผสาน ได้อย่างน่ารักน่าชัง ที่สำคัญพระเอกในเรื่องน่ารักฝุดๆ ทำเอาเคลิ้มตาม

World War Z

หนังซอมบี้วิ่งไปโอลิมปิก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าหากจะหนีซอมบี้ต้องฝึกวิ่งเร็ว วิ่งทำลายสถิติโอลิมปิกได้ยิ่งดี โอกาสรอดสูง

iZombie

ซีรี่ย์ซอมบี้ยังสเตอร์ ซอมบี้ฝึกหัดหาญสู้กับซอมบี้ตัวฉกาจ แถมมีการครีเอทเมนูอาหารจานเด็ดในแบบเกร๋ๆ ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า หรือซูชิ ที่มีส่วนของเอิ่มมม "สมอง" อาหารโปรดของชาวซอมบี้

The Walking Dead

ซีรีย์ซอมบี้สุดฮิตของใครหลายคน เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าซอมบี้มา ยิงหัวก่อนอันดับแรกแล้วค่อยว่ากันอีกที แล้วอีกเรื่องที่สำคัญคือ "คนเรานี่แหละที่น่ากลัวกว่าซอมบี้หลายเท่า"

พูดถึงเรื่องนี้แล้ว อดเคืองไม่ได้ ที่อีตาผู้กำกับตัดจบในตอนล่าสุดแบบดื้อๆ โดยไม่ยอมบอกว่าใครที่ตาย ให้รู้แค่ว่ามีใครสักคนนึงในทีมฝั่งพระเอกที่ต้องตาย แล้วตัดจบดื้อๆ เฮ้ยย มันใช่ปะวะ!

เท่าที่หาข้อมูล เหมือนจะมีการกั๊กเอาไว้ แล้วรอดูผลสำรวจ หรือเรตติ้งของตัวละครคนไหนที่เหลืออยู่ในทีมฝั่งพระเอกว่า ใครที่เรตติ้งน้อยสุด จะมีสิทธิ์ได้รับเลือกให้เป็นตัวละครที่ตาย เหมือนถูกโหวตให้ออก

อืมม เล่นง่ายๆ แบบนี้เลยนะ หากเป็นละครบ้านเราผู้กำกับคงโดนด่าเละ เพราะบทละครบ้านเราต้องจบแบบบริบูรณ์ ไม่ว่าจะจบแฮปปี้เอนดิ้ง จบโศรกเศร้าโศกาอาดูร ก็ต้องจบให้ครบถ้วนบริบูรณ์

เห็นฉากตัดจบแบบสะบัดบ็อบแล้วเดินจากไป ปล่อยให้คนดูอ้าปากค้าง พร้อมทำตาปริปๆ แล้วนึกถึงภาพแคปชั่นในไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์สุดฮิตกับประโยคเด็ดที่ว่า

"ชั้นเป็นผู้กำกับ ชั้นจะทำให้ฉากจบเป็นอย่างไรก็ได้"

 

"แต่ว่าแก...จะมาทำฉากจบแบบค้างๆคาๆแบบนี้ ม่-า-ย-ด้-า-ย"


(กรุณานึกภาพประกอบตามไปด้วย เพื่ออรรถรสในการอ่าน)

______________________________________
หากใครมีบล๊อกที่ blogspot สามารถแอดกันมาได้ที่นี่ค่ะ
https://aorangel.blogspot.com/
***รับดูแลเพจแอดมิน ทางด้าน marketing content
เขียนบทความพร้อมภาพประกอบ email: aorpaka@gmail.com***

2 ความคิดเห็น:

  1. หนังผีไทยก็สนุกนะจ๊ะ เหวอ......

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รอดูบุปผาราตรีภาคญี่ปุ่นอยู่ค่ะ อิอิอิอิ

      ลบ